เมนู

นั่นมิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส ข้อนี้ มิใช่ฐานะที่จะมีได้. ดูก่อนท่านผู้มีอายุ
ทั้งหลาย เจโตวิมุตติอันไม่มีนิมิตนี้ เป็นเครื่องสลัดออกซึ่งนิมิตทุกอย่าง.
6. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ก็ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ พึงกล่าว
อย่างนี้ว่า เมื่อการถือว่าเรามีอยู่ ดังนี้ เมื่อการถือว่าเรา หมดไปแล้ว
เราก็มิได้พิจารณาเห็นว่า เรามีอยู่. แต่ถึงอย่างนั้น ลูกศรคือความเคลือบ
แคลงสงสัยก็ยังครอบงำจิตของเราตั้งอยู่ได้ ดังนี้. เธอก็ควรถูกว่ากล่าว
อย่างนี้ว่า ท่านอย่าได้กล่าวอย่างนี้ ท่านผู้มีอายุอย่าได้พูดอย่างนี้ อย่าได้
กล่าวตู่พระผู้มีพระภาคเจ้า การกล่าวตู่พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นการไม่ดีเลย
เพราะพระผู้มีพระภาคเจ้าจะไม่พึงตรัสอย่างนี้. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย
ข้อที่ท่านกล่าวว่า เมื่อการถือว่าเรามีอยู่ ดังนี้หมดไปแล้ว และเมื่อเขา
ยังมิได้พิจารณาเห็นว่าเรามีอยู่ แต่ถึงอย่างนั้น ลูกศรคือความเคลือบแคลง
สงสัยก็จักครอบงำจิตของเขาตั้งอยู่ได้ ดังนี้ นั่นมิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส
ข้อนี้ มิใช่ฐานะที่จะมีได้. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย เพราะธรรมอัน
ถอนขึ้นซึ่งมานะในกาวถือว่าเรามีอยู่นี้ เป็นเครื่องสลัดออกซึ่งลูกศร คือ
ความเคลือบแคลงสงสัย.

[321] อนุตตริยะ 6


1. ทัสสนานุตตริยะ การเห็นอันยอดเยี่ยม
2. สวนานุตตริยะ การฟังอันยอดเยี่ยม
3. ลาภานุตตริยะ การได้อันยอดเยี่ยม
4. สิกขานุตตริยะ การศึกษาอันยอดเยี่ยม
5. ปาริจริยานุตตริยะ การบำรุงอันยอดเยี่ยม
6. อนุสสตานุตตริยะ การระลึกอันยอดเยี่ยม.

[322] อนุสสติฐาน 6


1. พุทธานุสสติ การระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า
2. ธัมมานุสสติ การระลึกถึงคุณของพระธรรม
3. สังฆานุสสติ การระลึกถึงคุณของพระสงฆ์
4. สีลานุสสติ การระลึกถึงศีล.
5. จาคานุสสติ การระลึกถึงการสละ
6. เทวตานุสสติ การระลึกถึงเทวดา.

[323] สตตวิหาร คือธรรมเครื่องอยู่ของพระขีณาสพ 6


1. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ เห็นรูป
ด้วยจักษุแล้ว ย่อมเป็นผู้ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ แต่เป็นผู้วางเฉย มีสติ และ
สัมปชัญญะอยู่.
2. ฟังเสียงด้วยโสตแล้ว. . .
3. ดมกลิ่นด้วยจมูกแล้ว...
4. ลิ้มรสด้วยลิ้นแล้ว...
5. ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกายแล้ว...
6. รู้แจ้งธรรมด้วยใจแล้ว. ย่อมเป็นผู้ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ แต่เป็น
ผู้วางเฉย มีสติและสัมปชัญญะอยู่.

[324] อภิชาติ 6


1. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย บุคคลบางตนในโลกนี้ เกิดในที่ดำ
ประสบธรรมฝ่ายดำ.